ธุรกิจไลฟ์สไตล์

9สุดยอดเทคนิควิธีลดค่าไฟในบ้านให้ได้ผล

Share this article

9สุดยอดเทคนควิธีลดค่าไฟในบ้านให้ได้ผล

สิ้นเดือนทีไร ค่าใช้จ่ายต่างๆไม่ว่าจะเป็น ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์มือถือ ค่าอินเตอร์เน็ต ถาโถมเข้ามาพร้อมๆกัน แล้วส่วนมากค่าไฟจะสูงโด่งนำมาทีเดียว วันนี้เราเลยจะมาเล่าให้ฟังถึง เทคนิควิธีการในการประหยัดค่าไฟฟ้าทั้งหมด 9 วิธี ที่จะช่วยให้เราสามารถประหยัดค่าไฟได้เป็นอย่างดีทีเดียว

1. ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน

เพียงแค่ปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นการตัดกระแสไฟเลยซะทีเดียว เพราะตราบใดที่ปลั๊กไฟยังเสียบอยู่กับเต้ารับ ก็ยังคงมีกระแสไฟไหลวนเพื่อให้คุณสามารถเปิดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้โดยทันที เช่น เสียปลั๊กเตาอบไมโครเวฟไว้ กระแสไฟก็ยังคงหมุนเวียนเตรียมรอเราเปิดใช้งาน
ซึ่งการที่เราถอดปลั๊กออกจะทำให้ประหยัดค่าได้มากกว่า หรือ ใครที่ชอบเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์เอาไว้แล้วมันเข้าสู่โหมดพักหน้าจอโดยอัตโนมัติ เพียงแค่ 1 ชั่วโมงก็สูญเสียกระแสไฟไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรแล้วเหมือนกัน ดังนั้นควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานออกทุกครั้งด้วยจะเป็นการดีที่สุด

2. ลดการใช้แอร์และปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม




บ้านไหนที่มีแอร์ก็ควรจะเปิดใช้แอร์เท่าที่จำเป็น โดยเลือกวิธีการเปิดหน้าต่างรับลม เพื่อใช้ลมธรรมชาติ หรือ พัดลมในการช่วยบรรเทาความร้อน หากจะเปิดแอร์ก็ควรเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาก็พอ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่นอนไม่หลับหากไม่เปิดแอร์ให้รู้สึกเย็นสบาย ก็เปิดแอร์ในช่วง 2-3 ชั่วโมงแรกก่อนจะนอน ตั้งเวลาปิดแอร์เอาไว้ล่วงหน้าให้เรียบร้อย และที่สำคัญอย่าลืมสำรวจช่องโหว่ทุกช่องตามประตูหน้าต่างในห้องนอนด้วย เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้เยอะทีเดียวแล้วล่ะ

3. เว้นระยะห่างในการใช้งานเครื่องดูดฝุ่น

ถ้าบ้านคุณไม่ได้เลี้ยงสัตว์ และโดยปกติก็ไม่ค่อยมีฝุ่นมากมายเท่าไรนัก ก็สามารถเว้นระยะห่างการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นจากดูดฝุ่นทุกเกือบทุกวัน เป็นดูดฝุ่นสัปดาห์ละครั้ง วิธีนี้ก็ช่วยลดปริมาณการใช้ไฟให้คุณได้เยอะเช่นกัน

4. เลือกใช้หลอดไฟแอลอีดี(LED)ประหยัดมากสุด รองลงมาคือหลอดฟลูออเรสเซ้นส์

หลอดไฟแอลอีดี(LED) ราคาจะแพงที่สุดแต่สามารถประหยัดไฟฟ้าได้มากที่สุด เป็นเพราะหลอดไฟแอลอีดี(LED)เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้กลายเป็นแสงได้มากที่สุด โดยไม่สูญเสียไปเป็นความร้อน ทำให้ใช้งานได้นาน ดังนั้นหากจะเปลี่ยนหลอดไฟที่บ้านควรเริ่มเปลี่ยนเป็นหลอดไฟแอลอีดี(LED)จะดีที่สุด
รองลงมาคือหลอดไฟฟลูออเรสเซ้นส์มีราคาแพงรองลงมา แต่หลอดไฟฟลูออเรสเซ้นส์สามารถช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าการใช้หลอดไส้ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า หรือพูดง่าย ๆ ว่ามีความทนทานมากพอสมควร อย่างนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมล่ะว่า ควรต้องเลือกใช้หลอดไฟแบบไหนถึงจะประหยัดค่าไฟได้ และคุ้มค่าเม็ดเงินมากกว่ากัน โดยสรุปหลอดไฟที่ใช้ไฟน้อยแต่ให้แสงสว่างเท่ากันคือ หลอดไฟแอลอีดี(LED)< หลอดไฟฟลูออเรสเซ้นส์ < หลอดไส้

5. ซักรีดเสื้อผ้าในคราวเดียว

เครื่องซักผ้า และเตารีดเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่กินไฟมากเช่นกัน ดังนั้นหากคุณจะซักรีดเสื้อผ้า ก็ควรซักรีดเสื้อผ้าคราวละมาก ๆ ครั้งเดียว หรืออย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ วิธีนี้จะช่วยให้คุณประหยัดไฟได้อีกมากโขเลยทีเดียว หากคุณคือคนที่ชอบรีดเสื้อผ้าทุกเช้า แทนที่จะรีดทีเดียวทั้งหมดต่อสัปดาห์ ก็ควรเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน ๆ เพราะแค่คุณเปลี่ยนพฤติกรรมแบบนี้ค่าไฟที่คุณต้องจ่ายในทุกเดือนต้องลดลงอย่างแน่นอน




6. ใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าให้น้อยลง

บรรดาเครื่องปั่น เตาไมโครเวฟ กระทะไฟฟ้า รวมไปถึงเตาอบ จัดว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทฟุ่มเฟือย ที่กินไฟฟ้าไม่น้อยเลยทีเดียว ฉะนั้นหากเป็นไปได้ลองลดความถี่ของการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ดู โดยคิดกระบวนการในการทำอาหารให้ลดการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านี้ดู หรือ ใช้เท่าทีจำเป็น สิ้นเดือนลองเปรียบเทียบค่าไฟฟ้ากันเลยดีกว่า โดยเปรียบเทียบระหว่าง ใช้เป็นประจำกับใช้เฉพาะเท่าที่จำเป็น ลดขั้นตอนความซ้ำซ้อนของการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าลง

7. จัดการตู้เย็นให้สะอาดและแช่ของที่เหมาะสม

ใครที่ชอบสะสมของกินไว้ในตู้เย็นวันละนิดวันละหน่อย แต่สุดท้ายก็ลืมทิ้งไว้ให้เน่าเสียคาตู้เย็น รู้ไหมคะว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขในบิลค่าไฟพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังทำให้ตู้เย็นของคุณสกปรก เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรีย ส่งผลกระทบกับสุขภาพร่างกายได้ง่าย ๆ อีกด้วย ดังนั้น หมั่นตรวจตราอาหารที่ไม่รับประทานแล้ว หรือ หมดอายุ ให้นำไปทิ้งให้หมด ทำความสะอาดตู้เย็น จัดระบบการนำของเสียทิ้งเป็นประจำทุกสัปดาห์ ก็จะเป็นการช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกทางนึง

8. เลิกใช้ที่โกนหนวดไฟฟ้า และแปรงสีฟันไฟฟ้า

ลำพังแค่แปรงสีฟันธรรมดา และมีดโกนหนวดแบบปกติก็สามารถทำความสะอาดช่องปากและใบหน้าของคุณได้หมดจดมาก พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์อย่างที่โกนหนวดไฟฟ้า และแปรงไฟฟ้าเลยสักนิด แถมยังช่วยประหยัดไฟที่ต้องชาร์จแบตให้คุณได้อีกเยอะเลย

9. ปิดไฟดวงที่ไม่ได้ใช้งาน

หลายคนชอบเปิดไฟทั่วบ้าน เพราะอยากให้บ้านดูสว่างไสว แต่หากได้เห็นบิลค่าไฟตอนสิ้นเดือนแล้วก็คงตกใจน่าดูใช่ไหมล่ะ ฉะนั้นก็ปิดไฟดวงที่ไม่ได้ใช้งานจะดีกว่า แล้วออกจากบ้านทุกครั้งก็ควรเดินสำรวจให้รอบบ้านด้วยว่า มีไฟดวงไหนที่เปิดค้างอยู่หรือเปล่า ก็จะเป็นการประหยัดค่าไฟได้ในอีกทางนึง

ใครที่กำลังกังวลกับค่าไฟที่สูงขึ้น ก็ลองทำตามวิธีการประหยัดไฟที่เราแนะนำกันได้เลย รับรองว่าถ้ามีวินัยในการใช้ไฟได้ครบทั้ง 9 ข้อนี้ ค่าไฟในบ้านของคุณจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดอย่างแน่นอน




Loading